เลเซอร์มาร์คกิ้ง คือเทคโนโลยีที่เข้ามาแก้ปัญหาการมาร์คชิ้นงานโลหะที่ตอบโจทย์ความทนทาน และความแม่นยำ โดยเฉพาะเมื่อเจอความร้อนหรือสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของการใช้มาร์คแบบเดิม ๆ อย่างหมึกพิมพ์และสติ๊กเกอร์ ที่แม้จะใช้ง่ายแต่กลับมีข้อจำกัด เช่น หมึกซีดจาง ข้อมูลเลือนหาย และเสี่ยงต่อการปลอมแปลงได้ง่าย บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักว่าเลเซอร์มาร์คกิ้งทำงานอย่างไร พร้อม 5 ประโยชน์สำคัญในงานโลหะ ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้
เลเซอร์มาร์คกิ้งคืออะไร
การมาร์คด้วยเลเซอร์ (Laser Marking) คือ การใช้แสงเลเซอร์ยิงลงบนพื้นผิวของวัสดุต่าง ๆ เพื่อสร้างรอยสัญลักษณ์ ตัวอักษร โลโก้ หรือ QR Code ไม่ทำลายโครงสร้างของชิ้นงาน รอยที่ได้จะคมชัด ถาวร และทนต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง และสามารถติดตามข้อมูลของชิ้นงานได้

ประเภทของเลเซอร์มาร์คกิ้งโลหะ
1. Laser Engraving (เลเซอร์แกะสลัก)
การใช้ลำแสงเลเซอร์ยิงพลังงานสูงกัดเซาะพื้นผิววัสดุให้เป็นรอยลึกโดยไม่ใช้หมึกหรือสารเคมี เหมาะกับงานที่ต้องรอยมาร์คถาวร คมชัดสูง เช่น อะไหล่เครื่องจักร แผ่นป้ายโลหะ
2. Laser Etching (เลเซอร์กัดผิว)
การใช้ลำแสงเลเซอร์พลังงานต่ำกัดผิวโลหะวัสดุตื้น ๆ ไม่ทำลายเนื้อวัสดุ เหมาะกับงานที่ต้องการรอยคมชัดรวดเร็ว เช่น มาร์คโลโก้ฝาปิดโลหะ หรือ ยิงเลเซอร์รหัส QR บนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
3. Laser Annealing (เลเซอร์เปลี่ยนสีผิว)
การใช้ความร้อนจากเลเซอร์เปลี่ยนสีผิววัสดุโดยไม่ทำลายหรือกัดผิว เหมาะกับงานที่ต้องการความเรียบเนียน สวยงาม และไม่มีรอยลึก เช่น มาร์คชิ้นส่วนเครื่องมือแพทย์
4. Laser Foaming (เลเซอร์ขึ้นฟองผิว)
การใช้ลำแสงเลเซอร์ทำให้ผิววัสดุเกิดฟองภายใน ส่งผลให้พื้นผิวเปลี่ยนสี เหมาะกับงานที่ต้องการมาร์คบนพลาสติกหรือวัสดุที่มีสารเติมแต่งเฉพาะ เช่น สร้างบาร์โค้ดบนบรรจุภัณฑ์ ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์
5. Laser Ablation (เลเซอร์ลอกผิว)
การใช้ลำแสงเลเซอร์พลังงานสูงลอกผิวชั้นบนของวัสดุออกไป เพื่อให้ชั้นล่างที่มีสีหรือพื้นผิวแตกต่างกัน เหมาะกับงานที่ต้องการความคมชัดและตัดกับพื้นหลัง เช่น ลอกฟอยล์หรือสีเฉพาะจุดในงานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ งานมาร์คข้อความบนวัสดุเคลือบสี

5 ประโยชน์ของการใช้เลเซอร์มาร์คกิ้งในงานโลหะ
1. เพิ่มความแม่นยำและความละเอียดสูง
เลเซอร์สามารถมาร์คข้อมูลได้ละเอียดระดับไมครอน ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขซีเรียล บาร์โค้ด หรือโลโก้บริษัทขนาดเล็ก ก็แสดงผลได้อย่างคมชัดบนโลหะทุกประเภท เช่น เหล็ก สแตนเลส ช่วยให้ชิ้นงานดูเป็นมืออาชีพ
2. ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดในสายการผลิต
เลเซอร์สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลการผลิตแบบอัตโนมัติ สามารถมาร์คข้อมูลเฉพาะแต่ละชิ้นงานแบบเรียลไทม์ ลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลซ้ำหรือพิมพ์ผิด เหมาะกับการผลิตจำนวนมาก
3. รองรับการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability)
งานมาร์คในอุตสาหกรรม การระบุข้อมูลการผลิต เช่น วันที่ผลิต หมายเลขล็อต เป็นสิ่งสำคัญ การใช้เลเซอร์มาร์คข้อมูลเหล่านี้ ช่วยให้ติดแน่น ทนทาน และตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังได้ เมื่อเกิดปัญหาในการผลิต
4. มาร์คได้ถาวร ทนต่อสภาพแวดล้อม
รอยมาร์คจากเลเซอร์มีคุณสมบัติ ไม่หลุดลอก ไม่ซีดจาง ทนต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี แม้จะผ่านกระบวนการรุนแรง อย่างเช่น โดนความร้อนสูง หรือสารเคมี เหมาะสำหรับชิ้นงานที่ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หนักหน่วง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ งานอิเล็กทรอนิกส์
5. เพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์และสินค้า
การใช้เลเซอร์มาร์คบนโลหะ ให้ภาพลักษณ์ของสินค้าที่สะอาด ดูทันสมัย และเสริมความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและแบรนด์ เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการยกระดับภาพลักษณ์ให้กับสินค้า

ข้อควรรู้ก่อนการใช้งานเลเซอร์มาร์คกิ้ง
- ประเภทเลเซอร์ต้องเหมาะกับวัสดุ เลเซอร์แต่ละชนิดเหมาะกับวัสดุแตกต่างกัน หากเลือกไม่ถูกต้อง อาจทำให้มาร์คไม่ติด หรือทำให้วัสดุเสียหายได้ เช่น Fiber Laser เหมาะกับโลหะทั่วไป
- พื้นผิวโลหะต้องสะอาดก่อนยิงเลเซอร์ สิ่งสกปรกอย่างฝุ่น หรือคราบน้ำมัน บนผิวโลหะทำให้รอยมาร์คเลเซอร์ไม่สม่ำเสมอ ควรเช็ดผิวชิ้นงานโลหะด้วยแอลกอฮอล์ก่อนเริ่มงานทุกครั้ง
- ตั้งค่าพลังงานและความเร็วให้เหมาะสมกับชิ้นงาน ค่าพลังงาน และความเร็วในการมาร์ค มีผลต่อความลึก ความชัด และความเรียบร้อยของรอยมาร์ค ควรตั้งค่ากับแผ่นทดสอบก่อนการใช้งานจริง
- คำนึงถึงความปลอดภัยเสมอ การใช้งานระบบยิงเลเซอร์มีความเสี่ยงจากลำแสงที่มองไม่เห็น และควันจากโลหะที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันเลเซอร์ และใช้งานในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศได้ดี
- ตรวจสอบความชัดก่อนใช้งานจริง การมาร์คโลหะบนชิ้นงานจริง ควรทดสอบลวดลาย ความลึก และตำแหน่งของรอยมาร์คบนแผ่นทดลอง หรือชิ้นส่วนโลหะที่ไม่ใช้งาน ป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

การใช้การมาร์คด้วยเลเซอร์ในงานโลหะ
- มาร์คหมายเลขซีเรียล / บาร์โค้ด ใช้สำหรับระบุรหัสเฉพาะชิ้นงาน เช่น ซีเรียลนัมเบอร์ หรือรหัสบาร์โค้ด เพื่อให้สามารถตรวจสอบ หรือเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลในระบบ
- สลักโลโก้หรือแบรนด์ เหมาะสำหรับการสร้างเอกลักษณ์ของสินค้า การสลักโลโก้แบรนด์ลงบนชิ้นงานโลหะ ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านคุณภาพ และป้องกันการลอกเลียนแบบสินค้าในตลาด
- มาร์ค QR Code หรือ Data Matrix เป็นการฝังข้อมูลที่แสกนได้ทันทีด้วยโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องอ่านเฉพาะ ช่วยติดตามข้อมูลสินค้าได้ง่ายและรวดเร็ว
- มาร์คข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการผลิต ใช้ในข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น วันที่ผลิต รหัสเครื่องจักร มีความสำคัญต่อการควบคุมคุณภาพ และการเรียกคืนสินค้าได้อย่างรวดเร็วเมื่อตรวจพบปัญหา
- ตกแต่งหรือลวดลายบนโลหะ เหมาะกับงานที่ต้องการความสวยงาม เช่น งานศิลป์ งานพรีเมียม หรือของขวัญที่ที่มีลวดลายความเฉพาะ ช่วยให้ได้ลายเส้นที่คมชัด สม่ำเสมอ และมีความละเอียดสูง
เลเซอร์มาร์คกิ้ง ไม่ใช่แค่การพิมพ์รอยบนโลหะเพื่อความสวยงาม แต่เป็นเทคโนโลยีที่ยกระดับมาตรฐานการผลิตในอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการมาร์คข้อมูลบนโลหะ เช่น หมายเลขซีเรียล บาร์โค้ด ข้อมูลสำคัญบนสินค้าต่าง ๆ ซึ่งช่วยในการเพิ่มความแม่นยำ ลดข้อผิดพลาดในการผลิต และสามารถติดตามข้อมูลของชิ้นงานย้อนหลังได้ง่าย หากใครกำลังมองหา งานการมาร์คด้วยเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ ขอแนะนำ Prosupply ผู้ให้บริการเลเซอร์ครบวงจรที่คุณไว้วางใจได้
🖥️ Line Oa: @prosupply
☎️ Tel: 099-3232989, 086-3328847, 063-3636595
✉️ Email: [email protected]
📘 Facebook: Laser Cut Pro Supply