แม้ว่าการตัดวัสดุด้วยเลเซอร์เป็นวิธีการที่สามารถจัดการกับวัสดุได้หลากหลายประเภท แต่การเลือกใช้วัสดุที่จะนำไปตัดชิ้นงานให้เหมาะสมกับความต้องการและถูกประเภทก็มีความสำคัญ เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพของชิ้นงาน จะเลือกยังไงให้เหมาะสม Prosupply มีคำตอบ
3 เหตุผลว่าทำไมการเลือกวัสดุจึงสำคัญต่องานตัดเลเซอร์
การเลือกใช้วัสดุอย่างเหล็ก สเตนเลส หรืออะลูมิเนียมที่จะนำมาขึ้นชิ้นงานมีความสำคัญมากต่อการนำไปขึ้นรูปหรือแปรรูปโลหะ โดยเฉพาะการตัดโดยใช้ลำแสงเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ความเข้มข้นของลำแสงที่ใช้ในการตัดก็จะส่งผลต่อชิ้นงานแตกต่างกันตามเนื้อวัสดุ รวมถึงการคำนวณต้นทุนและเวลาที่ใช้ในการตัดเลเซอร์

1. ความยาก-ง่ายในการตัดเลเซอร์
หากเป็นวัสดุประเภทสเตนเลสหรืออะลูมิเนียม จำเป็นจะต้องใช้พลังงานเลเซอร์ที่สูงในการตัดเพื่อป้องกันการเกิดรอยไหม้ที่ขอบตัด กระบวนการมีความซับซ้อนเพื่อให้ผลงานออกมาตรงตามต้องการ แต่ถ้าเป็นเหล็กจะมีการดูดซับพลังงานเลเซอร์ได้ดีทำให้การตัดมีความง่ายกว่า ไม่ต้องใช้เทคนิคซับซ้อน
2. ต้นทุนและระยะเวลาในการตัดเลเซอร์
การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับงบประมาณและการนำไปใช้งานช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก โดยวัสดุประเภทเหล็กจะมีราคาถูกกกว่าสเตนเลสและอะลูมิเนียม ส่วนระยะเวลาในการตัดขึ้นอยู่กับความสามารถในการดูดซับพลังงานเลเซอร์ ซึ่งโลหะกลุ่มเหล็กจะทำได้ดีกว่า ทำให้ใช้เวลาตัดสั้นกว่าสเตนเลสหรืออะลูมิเนียม
3. ความแตกต่างของโลหะแต่ละชนิด
คุณสมบัติทางกายภาพของวัสดุบ่งบอกถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น เหล็กดูดซับพลังงานเลเซอร์ได้ดี ตัดง่าย กว่า ลดโอกาสเกิดขอบตัดไหม้ ส่วนสเตนเลสและอะลูมิเนียมมีคุณสมบัติสะท้อนแสง ซับพลังงานยากกว่า ใช้เวลาในการตัดนานกว่า และอาจเกิดรอยไหม้ที่ขอบตัดได้
รู้จักจุดเด่นและข้อจำกัดของวัสดุก่อนนำไปตัดเลเซอร์
ก่อนจะเลือกวัสดุไปตัดเลเซอร์เป็นชิ้นงานที่ต้องการ สิ่งที่ควรรู้ก็คือคุณสมบัติ ข้อดีและข้อจำกัดของวัสดุแต่ละชนิด ดังนี้
1. เหล็ก (Iron)
ผสมระหว่างคาร์บอนกับเหล็ก แข็งแรง ทนทาน นิยมใช้อย่างแพร่หลายทั้งในงานก่อสร้าง งานอาคาร และงานผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ เป็นวัสดุที่มีความอเนกประสงค์

คุณสมบัติเด่นของเหล็ก
- เนื้อวัสดุแข็งแรง ทนทาน
- มีคุณสมบัติดูดซับแสงเลเซอร์ได้ดี ทำให้ตัดด้วยเลเซอร์ได้ง่าย
- จุดหลอมเหลวสูง ลดข้อผิดพลาดหรือการบิดงอผิดรูปจากการตัด
- ขอบตัดเรียบเนียน
- ใช้เวลาในการตัดสั้นกว่า
ข้อจำกัดของเหล็ก
- มีการป้องกันการกัดกร่อนในระดับต่ำ จำเป็นจะต้องเคลือบพื้นผิว
- หากเป็นการตัดแบบใช้ออกซิเจนช่วย (Oxy-cutting) อาจเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้เปลี่ยนเป็นสีดำได้
2. สเตนเลส (Stainless Steel)
โลหะผสมระหว่างเหล็กและโครเมียม 10.5% จุดเด่นคือการเป็นเหล็กกล้าไร้สนิม แข็งแรงทนทาน มีความแวววาว นำไปใช้งานได้หลากหลาย เป็นตัวเลือกยอดฮิตในการนำไปผลิตชิ้นส่วน เครื่องมือ เครื่องใช้ และในงานก่อสร้างต่าง ๆ

คุณสมบัติเด่นของสเตนเลส
- ทนการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม มีชั้นเคลือบผิวเป็นฟิล์มโครเมียมออกไซด์
- มีความแวววาวสวยงาม
- ทนความร้อนได้ดี
- สามารถทำความสะอาได้ง่าย ไม่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคหรือแบคทีเรีย
- การตัดขอบด้วยเลเซอร์ประเภทไฟเบอร์จะทำให้ได้ขอบที่เรียบเนียนมาก
- ใช้เป็นวัสดุสำหรับงานที่มีความละเอียดซับซ้อนได้ดี
ข้อจำกัดของสเตนเลส
- สะท้อนแสงเลเซอร์ ทำให้ต้องใช้กำลังเลเซอร์ในการตัดที่สูงกว่าปกติ
- ใช้ระยะเวลาในการตัดนานกว่าเหล็ก
- หากใช้กำลังเลเซอร์ไม่เหมาะสม หรือผู้ตัดไม่มีความเชี่ยวชาญอาจเกิดรอยครีบไหม้ที่ขอบตัด
- ราคาค่อนข้างสูง
3. อะลูมิเนียม (Aluminum)
โลหะผสมน้ำหนักเบาแต่ทนทานต่อการกัดกร่อน และมีความแข็งแรงสูง เหมาะกับการนำไปใช้งานอย่างหลากหลาย ทำให้อะลูมิเนียมเป็นอีกหนึ่งวัสดุยอดนิยมที่นิยมนำมาทำการตัดด้วยเลเซอร์

คุณสมบัติเด่นของอะลูมิเนียม
- ได้ชิ้นงานที่มีน้ำหนักเบา
- แข็งแรง ทนทาน ทนต่อการกัดกร่อน
- นำไฟฟ้าและนำความร้อนได้ดี
- หากเลือกใช้ความหนาที่เหมาะสมจะทำให้ได้งานที่มีขอบตัดเรียบเนียน
- หลังตัดแล้วไม่ต้องเคลือบ เพราะทนต่อการเกิดสนิมด้วยตัวเอง
ข้อจำกัดของอะลูมิเนียม
- ผิวสะท้อนแสงสูง ทำให้สะท้อนเลเซอร์กลับ ต้องใช้พลังงานเลเซอร์ในการตัดมากกว่าวัสดุชนิดอื่น ๆ
- มีโอกาสการตัดไม่ทะลุ หรือตัดไม่ตรงแบบ จำเป็นต้องใช้ความชำนาญและการตั้งค่าเครื่องเลเซอร์ให้เหมาะสม
- มีโอกาสเกิดครีบที่ขอบตัด เพราะอะลูมิเนียมจุดหลอมเหลวต่ำ
- มีเศษชิ้นส่วนเหลือจากการตัด
และนี่ก็คือความสำคัญที่ห้ามมองข้ามก่อนจะทำการตัดเลเซอร์กับ Prosupply เพราะเราให้ความสำคัญกับคุณภาพของชิ้นงาน การเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับชิ้นงานหรือวัตถุประสงค์จะช่วยให้การตัดประหยัดทั้งต้นทุนและเวลา และลูกค้าได้ชิ้นงานคุณภาพ
FAQ เกี่ยวกับการเลือกวัสดุให้เหมาะกับงานตัดเลเซอร์
สำหรับคำถามที่พบบ่อยอย่างการจะเลือกวัสดุแบบไหนให้ตรงกับความต้องการ เรามีคำตอบมาฝาก
Q1: ต้องการตัดเลเซอร์งานที่น้ำหนักเบาและไม่ขึ้นสนิมควรเลือกวัสดุอะไร ?
A: แนะนำ “อะลูมิเนียม” เพราะเป็นวัสดุน้ำหนักเบาและทนทานต่อการกัดกร่อน แต่การตัดมีความซับซ้อน ใช้เวลาตัดนานกว่า
Q2: ต้องการตัดเลเซอร์ที่เน้นความแข็งแรงและต้นทุนต่ำ ควรเลือกวัสดุอะไร
A: ควรเลือกใช้เป็น “เหล็ก” เพราะเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง ใช้งานได้หลากหลาย และมีราคาที่ไม่สูง
Q3: ต้องการตัดเลเซอร์งานที่แข็งแรง เน้นสวยงาม ควรเลือกวัสดุอะไร
A: แนะนำ “สเตนเลส” เพราะเป็นวัสดุที่แข็งแรงและมีความเงางาม มีความแวววาวสะท้อนแสง เหมาะกับการนำไปผลิตชิ้นงานที่เน้นความสวยงาม งานปรับภูมิทัศน์ เป็นต้น
🖥️ Line Oa: @prosupply
☎️ Tel: 099-3232989, 086-3328847, 063-3636595
✉️ Email: [email protected]
📘 Facebook: Laser Cut Pro Supply