การเชื่อมเหล็ก เป็นหัวใจสำคัญของงานวิศวกรรมและอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ หลายคนมองภาพเพียงกระบวนการเชื่อมผสานเนื้อวัสดุเข้าด้วยกัน แต่จริง ๆ แล้วการเชื่อมเหล็กนั้นมีความสำคัญมากกว่าแค่การผสานวัสดุสองชิ้นเข้าด้วยกัน ซึ่ง prosupply จะพาทุกคนไปสำรวจพร้อมกันในบทความนี้
ทำความรู้จักการเชื่อมเหล็ก
การเชื่อมเหล็ก คือ กระบวนการในการเชื่อมต่อเนื้อวัสดุโลหะหรือเนื้อเหล็กสองชิ้นหรือมากกว่าสองชิ้นเข้าด้วยกันให้เป็นชิ้นเดียวกัน เพื่อเสริมคุณสมบัติของวัสดุให้แข็งแรง ทนทาน หรือเหมาะกับการใช้งานประเภทต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น โดยวิธีการเชื่อมเหล็กแตกต่างกันไปตามเทคนิคและความเหมาะสมในการนำไปใช้งาน
การเชื่อมเหล็ก มีกี่วิธี
การเชื่อมเหล็กที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีด้วยกันทั้งสิ้น 3 เทคนิค ได้แก่ การเชื่อมไฟฟ้า (Arc Welding) การเชื่อมแก๊ส (Gas Welding) และ การเชื่อมต้านทานไฟฟ้า (Resistance Welding) ซึ่งแต่ละวิธีการจะมีจุดเด่น และให้ผลลัพธ์ของชิ้นงานแตกต่างกัน

1. การเชื่อมไฟฟ้า
เป็นการเชื่อมเหล็กสองชิ้นเข้าด้วยกันผ่านกระแสไฟฟ้า หรือที่เรียกว่าการเชื่อมอาร์ค เป็นการปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านปลายลวดเชื่อมไปยังชิ้นงาน ความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาจะสูงมากจนชิ้นงานละลายและเชื่อมติดกันได้ มีหลายประเภทแยกย่อยออกไป เช่น การเชื่อมธูป การเชื่อม MIG การเชื่อม TIG หรือการเชื่อมฟลักซ์คอร์ เหมาะกับการเชื่อมชิ้นงานทั่วไป โครงสร้างอาคาร งานก่อสร้าง เป็นต้น
2. การเชื่อมแก๊ส
เป็นกระบวนการเชื่อมโดยใช้พลังงานที่เกิดจากการเผาไหม้ระหว่างออกซิเจนและแก๊สเชื้อเพลิง เปลวไฟที่เกิดจะทำหน้าที่หลอมรวมผสานชิ้นงานเข้าด้วยกัน เหมาะกับการเชื่อมวัสดุแบบบาง งานศิลปะ หรืองานซ่อมเครื่องประดับ
3. การเชื่อมต้านทานไฟฟ้า
เป็นการเชื่อมที่ใช้กระแสไฟฟ้าเข้มข้น ซึ่งเกิดมาจากแรงดันและกระแสไฟฟ้าสูง ปล่อยพลังงานระหว่างโลหะสองชิ้นและใช้แรงกดให้เชื่อมติดกัน เหมาะกับงานผลิตจำนวนมาก เช่น ตัวถังรถยนต์ เป็นต้น
5 ประโยชน์จากการเชื่อมเหล็ก ที่มากกว่าแค่การผสานวัสดุ
เมื่อพูดถึงการเชื่อมเหล็ก คนทั่วไปจะนึกถึงการเชื่อมต่อโลหะหรือเหล็กสองชิ้นเข้าด้วยกันเพื่อเชื่อมต่อวัสดุให้ใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น หรือเป็นรูปทรงที่ต้องการมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วการเชื่อมเหล็กนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะช่วยผสานวัสดุแล้วการเชื่อมเหล็กยังใช้เพื่อเสริมความแข็งแรง ขยายขอบเขตการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มคุณภาพให้กับชิ้นงานได้มากกว่าเดิม มีประโยชน์ต่อทุกแวดวงอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก

1. ช่วยสร้างความแข็งแรงระหว่างชิ้นงานที่เทียบเท่า หรือมากกว่าตัววัสดุเดิม
สำหรับการเชื่อมที่รอยเชื่อมมีความสมบูรณ์ จะมีการสร้างความแข็งแรงระหว่างชิ้นงานได้ดีกว่าคุณสมบัติของชิ้นงานเดิมได้ (Parent Metal) ทำให้ได้ชิ้นงานที่มีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณน้ำหนักของวัสดุ เหมาะกับการทำโครงสร้างสะพาน เสา หรือสิ่งก่อสร้างที่ต้องรองรับน้ำหนักมาก
2. ขยายขอบเขตการออกแบบ มีความยืดหยุ่น
สำหรับการออกแบบชิ้นงานที่มีสเกลงานขนาดใหญ่ การผลิตออกมาเป็นชิ้นเดียวอาจจะสร้างความยุ่งยากซับซ้อนในการผลิต การเชื่อมเหล็กจึงเป็นวิธีการที่เข้ามาช่วยผสานวัสดุให้สามารถออกแบบตรงตามความต้องการได้ สามารถปรับรูปทรงและมุมการเชื่อมได้อย่างยืดหยุ่น สร้างชิ้นงานที่รูปทรงซับซ้อน แต่มีประสิทธิภาพสูงได้จริง
3. ช่วยยืดอายุโครงสร้างและชิ้นงาน
การเชื่อมเหล็กนอกจากเป็นการสร้างและผสานแล้ว ยังเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการยืดอายุชิ้นงานและช่วยบำรุงซ่อมแซมส่วนของชิ้นงานที่สึกหรอจากสภาพอากาศ หรือความเสียหายต่าง ๆ เพราะสามารถเติมเต็มเนื้อวัสดุได้ด้วยพลังงานความร้อน ผสานรอยร้าว รอยแยก รอยแตกได้ โดยไม่ต้องรื้อหรือทำใหม่


4. ช่วยลดต้นทุนการผลิต และลดต้นทุนแฝง
การผลิตที่ต้องใช้ชิ้นงานขนาดใหญ่มักมีราคาสูงและต้องใช้แรงงานคนซึ่งเป็นต้นทุนแฝงในการผลิต การเชื่อมเหล็กจึงเข้ามาเป็นตัวปิดช่องโหว่ในจุดนี้ได้ เพราะสามารถใช้วัสดุชิ้นเล็กหลายชิ้นมาเชื่อมต่อให้เป็นขนาดใหญ่ได้ และลดต้นทุนในเรื่องของการบำรุงรักษา เพราะซ่อมแซมได้ง่าย เพียงแค่เชื่อมเติมเนื้อวัสดุ เชื่อมเสริมความแข็งแรง หรือเชื่อมปิดรอยร้าวต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
5. ป้องกันการรั่วซึมได้ดีเยี่ยม
เพราะการเชื่อมที่ดีจะมีความหนาแน่นบริเวณรอยเชื่อมสูง ทำให้มั่นใจในการนำไปใช้งานประเภทที่ต้องมีการไหลผ่านของก๊าซหรือของเหลว ช่วยป้องกันการเกิดการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี เช่น การทำท่อส่งก๊าซ ท่อส่งน้ำมัน หรือถังเก็บสารเคมี เป็นต้น
FAQ
Q: การเชื่อมเหล็กแบบไหน เสริมความแข็งแรงได้ดีที่สุด
A: การเชื่อมแบบ TIG จะช่วยเสริมความแกร่งให้กับเนื้อวัสดุได้เป็นอย่างดี เหมาะกับงานที่เน้นป้องกันการรั่วซึม เพราะให้รอยเชื่อมที่แนบเนียน สนิทไปกับเนื้อโลหะมากที่สุด
Q: ทำไมการเชื่อมเหล็กเพื่อซ่อมแซม ถึงมีประโยชน์มากในแง่ของการลดต้นทุน
A: เพราะการแก้ไขรอยร้าว รอยแตก หรือเนื้อวัสดุที่หายไปด้วยการเชื่อม สามารถลดต้นทุนในการรื้อถอนหรือติดตั้งใหม่ได้เป็นอย่างดี สามารถเลือกซ่อมเฉพาะจุดได้ รวมถึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้แรงงานคนจำนวนมากเพื่อเข้ามาซ่อมแซมหรือติดตั้งด้วย
Q: ทำไมรอยเชื่อมจึงมีความสำคัญในการเชื่อมเหล็ก
A: เพราะรอยเชื่อมนั้นเป็นเสมือนกาว กาวที่มีความแน่นจะช่วยยึดให้วัสดุติดกันได้ดีกว่า ลดโอกาสในการเกิดปัญหาภายหลัง การเชื่อมด้วยเทคนิคต่าง ๆ จึงต้องกระทำด้วยช่างที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในการเชื่อมโดยเฉพาะ
จะเห็นได้ว่าการเชื่อมเหล็กนั้นมีมากกว่าแค่การผสานวัสดุเข้าด้วยกัน สามารถใช้ในการป้องกัน เสริมแกร่งและช่วยในการออกแบบที่ยืดหยุ่นได้อย่างครบถ้วน การเชื่อมที่ดีต้องมีรอยเชื่อมที่สมบูรณ์แบบอันเกิดจากช่างเทคนิคที่มีความชำนาญ แนะนำบริการจาก Prosupply ที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการในการเชื่อมเหล็กและโลหะได้อย่างมืออาชีพ จากประสบการณ์ให้บริการมากกว่า 10 ปี
สนใจบริการของเรา สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> Prosupply รับเชื่อมเหล็กและประกอบเหล็ก, โลหะทุกประเภท
🖥️ Line Oa: @prosupply
☎️ Tel: 099-3232989, 086-3328847, 063-3636595
✉️ Email: [email protected]
📘 Facebook: Laser Cut Pro Supply